สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กำลังดำเนินการใช้metaverse อย่างกว้างขวาง ทั่วทั้งองค์กรภาครัฐและเชิงพาณิชย์ โดยตำรวจอัจมานในดูไบกลายเป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายแห่งแรกในโลกที่ให้บริการภายในmetaverse
กองบัญชาการตำรวจอัจมานได้แนะนำบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า “คำขอให้การสนับสนุน” ซึ่งทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถติดต่อตำรวจจากระยะไกลได้ เจ้าหน้าที่กองบัญชาการตำรวจอัจมานก็เข้าร่วมงาน Dubai Metaverse Forum ด้วย
พล.ต.คาลิด นัสเซอร์ อัล ราซูกี ผู้อำนวยการฝ่ายปัญญาประดิษฐ์ของสำนักงานตำรวจดูไบ ให้ความเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาล่าสุด ชี้ให้เห็นว่าอุปกรณ์อัจฉริยะที่อัปเกรดนี้ยังมีแดชบอร์ดส่วนบุคคลที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและธุรกรรมอื่นๆ ที่ทำโดยบุคคลที่ถืออุปกรณ์ นอกจากนี้ยังประกอบด้วยประวัติของผู้ถือการละเมิดกฎจราจรและความผิดตลอดจนข้อมูลอื่น ๆ
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ใกล้จะตระหนักถึงศักยภาพของตนในฐานะศูนย์กลางระดับโลกสำหรับ metaverse ด้วยการนำของ Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum ผู้ปกครองของดูไบ
ด้วยเหตุนี้ เมื่อพิจารณาว่าผู้ปกครองของดูไบได้จินตนาการถึงเศรษฐกิจดิจิทัลทั้งหมดสำหรับประเทศในอ่าวเปอร์เซีย โครงการ metaverse ของดูไบจะช่วยรับประกันการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเอมิเรตส์ในอนาคต
การพัฒนาความสามารถในท้องถิ่น นวัตกรรม และการใช้เทคโนโลยี metaverse ของรัฐบาลเป็นจุดสนใจหลักของการริเริ่มนี้ นอกจากนี้ แผนดังกล่าวเรียกร้องให้มีการขยาย ธุรกิจที่ใช้ บล็อคเชนไปทั่วประเทศ และการผลิตความเป็นไปได้ในการจ้างงานใหม่จำนวนมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Finbold รายงานเมื่อปีที่แล้วว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้เปิดตัว แพลตฟอร์ม การเงิน การค้า ที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีบล็อคเชน โดยร่วมมือกับ Etisalat ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมและกลุ่มธนาคารท้องถิ่น 7 แห่ง แพลตฟอร์ม UAE Trade Connect มีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงการดำเนินธุรกิจโดยควบคุมการฉ้อโกงและ ความเสี่ยงจากอาชญากรรมทางการเงิน
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือเป้าหมายของดูไบรวมถึงการขยายการผลักดันสู่เศรษฐกิจดิจิทัลและการกระจายแหล่งรายได้ให้ห่างไกลจากน้ำมัน ด้วยเหตุนี้การผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศจึงได้รับแรงผลักดันจากกลยุทธ์ Dubai Metaverse ซึ่งนำเสนอต่อสาธารณชนในเดือนกันยายน