“ปูเล่” ผักมหัศจรรย์ “ต้านมะเร็ง”

ปูเล่ เป็นพืชในวงศ์เดียวกันกับกะหล่ำที่เก่าแก่มีมานานแล้ว โดยพบทางภาคใต้ของประเทศไทย ตั้งแต่ครั้งสมัยต้นรัตนโกสินทร์ จึงคาดว่ามีผู้นำปูเล่มาจากประเทศจีน ในช่วงการอพยพย้ายถิ่นฐาน ชาวจีนนำปูเล่ปลูกในกระถางไว้บนเรือ และเก็บบริโภคระหว่างเดินทางด้วยระยะเวลานาน ปูเล่ที่ปลูกมีหลายสายพันธุ์ บางพันธุ์มีลักษณะคล้ายกระหล่ำ บางชนิดมีสีม่วงปนเขียว บางชนิดคล้ายคะน้า แต่ใบใหญ่กว่ามาก

ชื่อสามัญ Longlived Cabbag
ชื่อวิทยาศาสตร์ Brassica oleraceae L. cv. gr. Collard
ชื่อวงศ์ Cruciferae
ชื่ออื่นๆ คะน้าสามร้อยปี

ลักษณะเด่นของปูเล่

ปูเล่เป็นพืชที่มีลักษณะเด่นที่น่าจะได้รับการส่งเสริมให้ทุกบ้าน ได้ปลูกไว้โดยปูเล่จะเจริญเติบโตได้ดีในกระถาง ดังนั้นในครัวเรือนที่มีบ้านและมีพื้นที่จำกัดก็สามารถปลูกปูเล่ได้ โดยปลูกไว้ที่ระเบียง ปลูกในสนามบ้าน ลักษณะเด่นที่สำคัญของปูเล่ประกอบด้วย

การขยายพันธุ์ปูเล่

ทำได้ด้วยวิธีการปักชำจากแขนง และการเพาะเนื้อเยื่อ

ประโยชน์

คุณค่าอาหาร

ปูเล่ เป็นพืชที่มีคุณค่าทางอาหารมากมาย กล่าวได้ว่า ปูเล่ 100 กรัม ให้พลังงาน 30 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย โปรตีน 23 กรัม ไขมัน 0.3 กรัม แคลเซียม 151 มิลลิกรัม คาร์โบไฮเดรต 4.5 กรัม โพแทสเซียม 54 มิลลิกรัม ไรโบฟลาวิน 0.11 มิลลิกรัม วิตามินซี 63 มิลลิกรัม ไทอะมิน 0.07 มิลลิกรัม และมีเบต้าแคโรทีนสูง

สรรพคุณทางยา

ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยชะลอความแก่ของเซลล์ ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจขาดเลือด ช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณ ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ป้องกันโรคลักปิดลักเปิด และโรคหวัด เป็นต้น

นอกจากนี้ ปูเล่ เป็นพืชที่มีสีสันและโครงสร้างของใบที่สวยงาม สามารถปลูกเป็นไม้ประดับในกระถางวางหรือแขวนไว้บริเวณระเบียงบ้าน หรือตามที่ต่างๆ ตามความต้องการได้ ใบของปูเล่มีเส้นใยอยู่น้อย สามารถนำมารับประทานได้แม้เป็นใบแก่ มีรสชาติที่ดี ไม่เหนียว ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว จะนำมารับประทานเป็นผักสด หรือใช้ปรุงเป็นอาหารประเภทต่างๆ ได้หลากหลายเมนู หรือจะนำไปแปรรูปเป็นผักดองก็ได้

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *