Entertainment

ย้อนตำนาน 3 ดาราพระกาฬฮ่องกง

คอโทรทัศน์ ยุค 2020 หาน้อยคนนักที่จะรู้จัก พระเอกซีรีส์ฮ่องกงเหล่านี้  เจิ้งเส้าชิว  หลิวสงเหยิน โจวเหวินฟะ  ที่พอจะร่วมสมัยได้คงมีพี่โจวของเรานี่แหละ ที่ครองความนิยมมาได้ยาวนานกว่าเพื่อน วันนี้จึงอยากจะมาฟื้นความหลัง ถึง 3 พระเอกพระกาฬในยุคนั้น  ให้คนรุ่นนี้ ได้รับรู้ว่าทั้งสามโด่งดังเพียงใด

ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่า ทั้ง 3 เป็นพระเอกในสังกัดของ TVB (Television Broadcasts Limited) หรือ อู๋เซี้ยน ในชื่อภาษาจีน บอกไปอย่างนี้ อาจจะไม่ทราบถึงความยิ่งใหญ่ แต่ถ้าบอกว่า ยักษ์ใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังของค่ายทีวีแห่งนี้คือ Shaw brothers  ค่ายหนังยักษ์ใหญ่ของฮ่องกงแล้ว คงต้องร้องอ๋อไปตามกัน

มาเริ่มจากพี่ใหญ่ “เจิ้งเส้าชิว”

เจิ้งเส้าชิวเป็นพี่ใหญ่ของพระกาฬทั้ง 3  พี่เจิ้งของเราเปิดตัวบนจอทีวีบี กับ จอมใจจอมยุทธ (The Legend Of The Book and the Sword 1976)  อันเป็นละครที่สร้างมาจากนวนิยายเรื่อง ตำนานอักษรกระบี่ ของกิมย้ง ตามมาด้วยเรื่องดาบมังกรหยก (Heaven Sword and Dragon Saber 1978)  ความสำเร็จของทั้ง 2 เรื่องทำให้ พี่เจิ้งก้าวขึ้นแท่นอันดับหนึ่งของทีวีบีเลย  ตามาด้วย การเป็นดาราแถวหน้าของเอเชีย  และที่เป็นไฮไลท์สุดๆในชีวิตการแสดงของพี่เจิ้งก็คงหนีไม่พ้นบทบาทของ “ชอลิ้วเฮียง” จอมโจรจอมใจ  บทจอมยุทธ์เจ้าเสนห์ ขี้เล่น นี้ พี่เจิ้งเล่นได้อย่างตีบทแตกทีเดียว

พี่เจิ้ง แต่งงานกับ เสิ่น เตี้ยนเสีย เจ๊อ้วนที่หลายคนคงรู้จัก แต่ก็ต้องหย่าร้างกันไป  และต่อมา เจิ้ง เส้าชิวก็สมรสอีกครั้งกับ กวานจิงหัว ซึ่งเป็นภรรยาคนปัจจุบัน ทั้งคู่มีบุตรสาวด้วยกันทั้งหมด 3 คน

หลิวสงเหยิน “เล็กเซียวหงส์ดัชนีสยบมาร”

บทของ “เล็กเซียวหงส์” ที่ประทับใจคนดูยุคนั้น  จนหลังๆที่จะหาใครมาเล่นแทนเขา “หลิวสงเหยิน” นั้น  ไม่มีอีกแล้วนี่ คงเป็นหลักประกันได้อย่างดีถึงความมีเอกลักษณ์ของดาราหนุ่มผู้นี้ พี่หลิวของเรา เข้าวงการเมื่อปี 1971 ก่อนอื่นก็เล่นอยู่หลายบท แต่มาโด่งดังสุด กับบท “เล็กเซียวหงส์” นี่เอง ภาค 1 ปี 1976 ตอนหงส์ผงาดฟ้า เล็กเซียวหงส์ ภาค 2 ปี 1977 ตอนสองนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ เล็กเซียวหงส์ ภาค 3 ปี 1978 ตอนหมู่ตึกภูตพราย และตบท้ายกับช่องทีวีบีที่ทุกคนยังจำได้คือ ฤทธิ์ดาบวงพระจันทร์ ในปี1979 ที่เล่นประกบกับเจ้าหย่าจือ

โจวเหวินฟะ “เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้” ตัวจริงเสียงจริง

โจวเหวินฟะ นับว่าอายุน้อยที่สุดในรุ่นนี้ และความสำเร็จของเขากลับเกิดขึ้นพร้อมการเปลี่ยนแปลงการดูละครชุดของผู้ชมที่หันมาสนใจละครชุดที่สะท้อนชีวิตคนยุคปัจจุบันอย่างเช่น เทพบุตรชาวดิน (1979 ) ก่อนที่จะโด่งดังเป็นพลุแตกจาก เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ (The bund , 1980) ที่ทำให้โจวเหวินฟะขึ้น เป็นนักแสดงอันดับหนึ่งของค่ายทีวีบี และถูกยกย่องให้เป็น นักแสดงซีรีส์ยอดนิยม(Most popular TV star) ของเกาะฮ่องกง

หลังความโด่งดังจาก ทีวีบี พี่โจว ก็เข้าสู่วงการหนังใหญ่  “โหด เลวดี” มหากาพย์หนังบู๊ในตำนาน จากการกำกับของ จอห์นวู พี่โจวได้เข้าไปเล่นเรื่องนี้ ร่วมกับตี้หลุง และเลสลี่ จาง หลังจากนั้นก็เหาะทะยานหมายมั่นไปดังที่ฮอลลีวู๊ด  กับหนังเรื่อง นักฆ่ากระสุนโลกันต์ (The Repleacement Killer ,1998) คนคอรัปชั่น (The Corrupter ,1999) แอนนา แอนด์ เดอะ คิง (Anna and the King ,1999) แม้ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก แต่ก็เป็นการปูทางให้ดาราเอเชียก้าวสู่ วงการฮอลลีวู๊ดในเวลาต่อมา ระยะหลังเฮียโจวเล่นหนังน้อยลง แต่ด้วยความสมถะสันโดษ จึงมีข่าวว่า เตรียมบริจาคทรัพย์สินกว่า 23,000 ล้านบาท ให้แก่สาธารณกุศล เนื่องจากตัวเขาเองและภรรยาไม่มีทายาทสืบสกุล

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *