นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการได้รับสัญญาณการตัดสิทธิ์ GSP จากสหรัฐมาเป็นระยะตั้งแต่ปลายปีที่แล้วรวมถึงเหตุผลของสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับสิทธิ์ด้านแรงงาน โดยได้เตรียมการรับมือมาตลอด แต่มองว่า รัฐบาลไม่จำเป็นต้องตอบสนองข้อเรียกร้องของสหรัฐในทุกเรื่อง เพราะที่ผ่านมาไทยให้สิทธิ์ประโยชน์กับแรงงานต่างด้าวที่มาทำงานในไทยมากกว่าหลายๆ ประเทศอยู่แล้ว ทั้งค่าแรงที่เท่ากับแรงงานไทย (ในขณะที่ค่าแรงในสหรัฐฯ / ญี่ปุ่น หรือ ยุโรป ค่าแรงคนในประเทศกับแรงงานต่างด้าว จะแตกต่างกัน) สิทธิ์ในการเข้าถึงบริการสุขภาพและการศึกษา เป็นต้น อย่างไรก็ตามเชื่อว่าสหรัฐน่าจะมีข้อต่อรองอื่น ๆ ด้วย และคงต้องรอการเจรจาระหว่างผู้นำทั้ง 2 ประเทศ
นอกจากนี้ แม้ผลกระทบจากการถูกตัดสิทธิ์ GSP จะไม่มากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นปัจจัยลบที่เข้ามาซ้ำเติมผู้ประกอบการที่สายป่านสั้น ให้ทรุดหนักจนถึงขั้นปิดกิจการไปหลายราย เพราะขณะนี้เจอปัจจัยลบหลายด้าน ตั้งแต่สงครามการค้าโลกทำเศรษฐกิจทั่วโลกทรุด ค่าเงินบาทแข็ง กระทบส่งออก ออเดอร์สินค้าไม่เข้า ซ้ำเติมด้วย GSP และจะกระทบต่อเนื่องไปถึงภาคแรงงาน โดยมองว่า ภาคการส่งออก การผลิตสินค้าอุตสาหกรรมบริการและอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ รวมถึง อสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง น่าเป็นห่วง โดยปีหน้าจะหนักกว่าปีนี้ ในระดับน้องๆ ต้มยำกุ้งและจะซึมยาว ล่าสุดกำลังการผลิตอุตสาหกรรมเหลือเกือบ 1 ใน 3 มีสัญญาณในทางลบ โรงงานทั้งเล็กและใหญ่ทำงานไม่เต็มเวลา ทั้งนี้ขอให้กระทรวงแรงงานเฝ้าระวังสถานการณ์แรงงานและหามาตรการรองรับ เพราะสัญญาณการเลิกจ้างและลดต้นทุนด้านแรงงานเริ่มเห็นชัดเจนมากขึ้น